หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
1.ประวัติของคอมพิวเตอร์
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในปัจจุบัน เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมาหลาย
ร้อยปี เริ่มจากการสร้างอุปกรณ์ที่ไม่มีกลไกซับซ้อน จนกลายมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูงที่
นำมาใช้งานในชีวิตประจำวันในขณะนี้
ร้อยปี เริ่มจากการสร้างอุปกรณ์ที่ไม่มีกลไกซับซ้อน จนกลายมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูงที่
นำมาใช้งานในชีวิตประจำวันในขณะนี้
ต่อมาในปี พ.ศ. 2185 แบลส์ พาสคัล (Blaise Pascal) นักวิทยาศาสตร์และปรัชญาชาวฝรั่งเศส ได้ประดิษฐ์ เครื่องคิดเลขขึ้นมา ใช้ในการคำนวณ สามารถ ใช้บวกและลบเลขได้อย่างถูกต้อง
![]() | |
ภาพที่ 3.1 แบลส์ พาสคัล |
![]() |
ภาพที่ 3.2 ชาร์ล แบบเบจ |
![]() | |||
ภาพที่ 3.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ ENIAC |
![]() |
ภาพที่ 3.4 เครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดแรกที่ตั้งโต๊ะ |
คอมพิวเตอร์รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ เช่น
ตัวเครื่อง จอภาพ คีย์บอร์ด และ เมาส์ เป็นต้น
![]() |
ภาพที่ 3.5 แสดงองค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ |
ข้อมูลจากการกดแป้นพิมพ์เพื่อส่งต่อไปให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ที่นิยมใช้จะมี 101 แป้นและ
แยกแป้นอักขระและตัวเลขออกจากกัน ส่วนบนจะเป็นแป้นคำสั่งพิเศษเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
![]() |
ภาพที่ 3.6 แผงแป้นอักขระ |
![]() |
ภาพที่ 3.7 เม้าส์ชนิดต่างๆ |
2. ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์หรือกล่องเครื่องที่มีซีพียูบรรจุอยู่ความหมายส่วนที่2ถ้ามองทางด้านเทคนิค
แล้วจะเป็นความหมายที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากตัวซีพียูเป็นซิปคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เหมือนส่วนสมอง
ของคอมพิวเตอร์
![]() |
ภาพที่ 3.9 แสดงลักษณะของซีพียูที่ใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์ |
3.3หน่วยเก็บข้อมูล
1.1 หน่วยความจำแบบ “แรม” (RAM=Random access memory)
![]() |
ภาพที่ 3.10 แผ่นบันทึกข้อมูล |
![]() |
ภาพที่ 3.11 จานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง (Hard Disk) |
![]() |
ภาพที่ 3.11 แผ่นซีดีรอม 1 แผ่น สามารถเก็บข้อมูลเท่ากับหนังสือ 500 เล่มหรือมีความจุแผ่นบันทึก 450 แผ่น |
![]() |
ภาพที่ 3.12 อุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิด DVD-ROM |
2. เครื่องพิมพ์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ในรูปของอักขระหรือรูปภาพที่จะไปปรากฏอยู่บนกระดาษ
3. ลำโพง เป็นอุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ที่อยู่ในรูปของเสียง สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน
แผงวงจรเกี่ยวกับเสียง ซึ่งมีหน้าที่แปลงข้อมูลดิจิตอลไปเป็นเสียง
ปี พ.ศ.2376 ชาร์ล แบบเบจ ได้สร้างเครื่องคำนวณที่ทำงานโดยอาศัยโปรแกรมเป็นเครื่องแรกของโลก
เราให้เกียรติยกย่องว่าเขาเป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์เนื่องจากเครื่องที่เขาสร้างขึ้นเป็นต้นแบบหรือ
แนวทางที่นำไปสู่การพัฒนาของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันในปัจจุบัน
เราให้เกียรติยกย่องว่าเขาเป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์เนื่องจากเครื่องที่เขาสร้างขึ้นเป็นต้นแบบหรือ
แนวทางที่นำไปสู่การพัฒนาของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันในปัจจุบัน
ปี พ.ศ. 2489 คณะนักวิจัยของประเทศสหรัฐอเมริกาทีมงานหนึ่งได้พัฒนาและสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์
ระบบอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกของโลกมีชื่อเรียกว่า อินิแอ็ก (ENIAC)
ระบบอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกของโลกมีชื่อเรียกว่า อินิแอ็ก (ENIAC)
เพื่อใช้ในในการคำนวณวิถีกระสุนปืนใหญ่ที่ใช้ในระหว่างสงครามครั้งที่ 2 ต่อจากนั้นก็ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงเป็นระบบเล็ก หรือที่เราเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer หรือ PC)
2. ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ประเภทอิเล็กทรอนิคส์ที่ทำงานด้วยคำสั่ง ชุดคำสั่ง
หรือโปรแกรมต่างๆสามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้หลายแบบ รวมทั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วย
ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์คือมีศักยภาพสูงในการคำนวณประมวลข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลข รูปภาพ ตัว
อักษร และเสียง
หรือโปรแกรมต่างๆสามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้หลายแบบ รวมทั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วย
ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์คือมีศักยภาพสูงในการคำนวณประมวลข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลข รูปภาพ ตัว
อักษร และเสียง
3.ระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง กรรมวิธีที่คอมพิวเตอร์ทำงานใดๆกับข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เป็น
ประโยชน์
ตามความประสงค์ของผู้ใช้มากที่สุด เช่น การตรวจสอบข้อมูลประชากรจากระบบทะเบียนราษฎร์ ถ้า
ต้องการทราบข้อมูลต่างๆเหล่านี้ สามารถตรวจสอบได้โดยการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์จาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
4.องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ประโยชน์
ตามความประสงค์ของผู้ใช้มากที่สุด เช่น การตรวจสอบข้อมูลประชากรจากระบบทะเบียนราษฎร์ ถ้า
ต้องการทราบข้อมูลต่างๆเหล่านี้ สามารถตรวจสอบได้โดยการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์จาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
4.องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจะประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วนดังนี้
1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware)หรือส่วนเครื่อง
2. ซอฟต์แวร์(Software)หรือส่วนชุดสั่ง
3.ข้อมูล(Data)
4.บุคลากร(People)
5.ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์มีส่วนประกอบสำคัญ ดังนี้
หน้าที่ของฮาร์ดแวร์ประกอบด้วยส่วนที่สำคัญ 5 ส่วน 1.หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)2.หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)3.หน่วยความจำ (Memory Unit)
4.หน่วยแสดงผล (Output Unit)5. อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ
1.หน่วยรับข้อมูล(Input Unit) เป็นอุปกรณ์ต่างๆที่นำมาเชื่อมต่อทำหน้าที่ป้อนสัญญาณเข้าสู่ระบบ
เพื่อกำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการทั้งวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวข้อง เช่น แผนแป้น
อักษร(Keyboard)เมาส์(Mouse) จอภาพ (monitor) เป็นต้น
เพื่อกำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการทั้งวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวข้อง เช่น แผนแป้น
อักษร(Keyboard)เมาส์(Mouse) จอภาพ (monitor) เป็นต้น
แผงแป้นอักขระ
เมาส์ เมาส์ (mouse)เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายตัวหนู เราใช้เมาส์ในการควบคุมตัวชี้ ที่ปรากฏ
บนจอภาพให้สามารถเลื่อนไปสู่ตำแหน่งต่างๆที่ต้องการได้โดยใช้ง่ายสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมในการ
ควบคุมคำสั่งก็ได้ จะมีปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม ด้วยกัน
บนจอภาพให้สามารถเลื่อนไปสู่ตำแหน่งต่างๆที่ต้องการได้โดยใช้ง่ายสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมในการ
ควบคุมคำสั่งก็ได้ จะมีปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม ด้วยกัน
จอภาพ จอภาพ (monitor) เป็นอุปกรณ์แสดงข้อมูลผลลัพธ์ที่เกิดจากเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถ
แสดงได้ทั้งตัวหนังสือ ภาพนิ่ง และภาพเครื่องไหว โดยทั่งไปนิยมใช้จอภาพแบบสี
ภาพที่ 3.8 จอภาพแบบต่างๆ
2.หน่วยประมวลผลกลาง
หน่วยประมวลผลกลาง(Central Processing Unit : CPU) หน่วยประมวลผลกลาง หรือเรียก
คำย่อว่า ซีพียู มีความหมายทางด้านฮาร์ดแวร์ 2 อย่างด้วยกันคือ
คำย่อว่า ซีพียู มีความหมายทางด้านฮาร์ดแวร์ 2 อย่างด้วยกันคือ
ซีพียูมีหน้าที่หลักในการควบคุมทำงานของคอมพิวเตอร์ประมวลผลและเปรียบเทียบข้อมูล
โดยทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดิบให้เป็นสารสนเทศที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
โดยทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดิบให้เป็นสารสนเทศที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
3.หน่วยความจำ (Memory Unit)
ประเภทของหน่วยความจำ (memory ) มีดังนี้3.1.หน่วยความจำหลัก
3.1.หน่วยความจำหลัก คือ หน่วยเก็บข้อมูลและคำสั่งต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบ
ด้วยชุดความจำข้อมูลที่สามารถบอกตำแหน่งที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่ง ข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้และ
สามารถถูกนำออกมาใช้ในการประมวลผลในภายหลัง
ด้วยชุดความจำข้อมูลที่สามารถบอกตำแหน่งที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่ง ข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้และ
สามารถถูกนำออกมาใช้ในการประมวลผลในภายหลัง
หน่วยความจำหลักแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
1.2 หน่วยความจำแบบ “รอม” (ROM = Read Only Memory)
1.1 หน่วยความจำแบบ “แรม”
หน่วยความจำแรมเป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าเพื่อรักษาข้อมูล ข้อมูลหรือแฟ้ม
ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวขณะทำงาน ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำจะอยู่ได้นานจนกว่าปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์หรือไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อนส่งให้กับเครื่อง เมื่อปิดเครื่องหรือไฟฟ้าดับข้อมูลที่เก็บไว้จะถูก
ลบหายไป เราเรียกว่าหน่วยความจำ ประเภทนี้ว่า “หน่วยความจำแบบลบเลือนได้”
ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวขณะทำงาน ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำจะอยู่ได้นานจนกว่าปิดเครื่อง
คอมพิวเตอร์หรือไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อนส่งให้กับเครื่อง เมื่อปิดเครื่องหรือไฟฟ้าดับข้อมูลที่เก็บไว้จะถูก
ลบหายไป เราเรียกว่าหน่วยความจำ ประเภทนี้ว่า “หน่วยความจำแบบลบเลือนได้”
1.2 หน่วยความจำแบบ “รอม”
เป็นหน่วยความจำที่ใช้ในการเก็บ โปรแกรมหรือข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์
ข้อมูลที่ถาวรไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่ป้อนให้วงจร ยอมให้ซีพียูอ่านข้อมูลหรือโปรแกรมไปใช้งานอย่างเดียว
ไม่สามารถเขียนข้อมูลลงไปเก็บไว้ได้โดยง่าย ต้องใช้เทคนิคพิเศษช่วย ส่วนใหญ่ใช้การเก็บโปรแกรมควบคุม เราเรียกว่าหน่ายความจำประเภทนี้ว่า “หน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน”
ข้อมูลที่ถาวรไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่ป้อนให้วงจร ยอมให้ซีพียูอ่านข้อมูลหรือโปรแกรมไปใช้งานอย่างเดียว
ไม่สามารถเขียนข้อมูลลงไปเก็บไว้ได้โดยง่าย ต้องใช้เทคนิคพิเศษช่วย ส่วนใหญ่ใช้การเก็บโปรแกรมควบคุม เราเรียกว่าหน่ายความจำประเภทนี้ว่า “หน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน”
3.2. หน่วยความจำรอง (secondary storage) หน่วยความจำชนิดนี้มีไว้สำหรับสำรองหรือทำงานกับ
ข้อมูลและโปรแกรมขนาดใหญ่เนื่องจากขนาดของหน่วยความจำหลักมีจำกัด หน่วยความจำสำรอง
สามารถเก็บไว้ได้หลายแบบ เช่น แผ่นบันทึก (floppy disk) จานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง (hard disk)
แผ่นซีดีรอม (CDROM) แผ่นดีวีดี (DVD) และจานแสงแม่เหล็ก เป็นต้น
ข้อมูลและโปรแกรมขนาดใหญ่เนื่องจากขนาดของหน่วยความจำหลักมีจำกัด หน่วยความจำสำรอง
สามารถเก็บไว้ได้หลายแบบ เช่น แผ่นบันทึก (floppy disk) จานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง (hard disk)
แผ่นซีดีรอม (CDROM) แผ่นดีวีดี (DVD) และจานแสงแม่เหล็ก เป็นต้น
แผ่นบันทึกหรือฟลอปปี้ดิสก์
แผ่นบันทึกข้อมูล(floppy disk) เป็นหน่วยความจำสำรอง ตัวแผ่นทำด้วยพลาสติกชนิดอ่อน บรรจุใน
ซองพลาสติกแข็งเพื่อป้องกันกับแผ่นบันทึกไม่ให้เสียหายง่ายใช้เป็นสื่อในการโอนหรือสำเนาแฟ้ม
จานบันทึกข้อมูล ตัวจานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง (Hard Disk) ประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กตั้งแต่
ซองพลาสติกแข็งเพื่อป้องกันกับแผ่นบันทึกไม่ให้เสียหายง่ายใช้เป็นสื่อในการโอนหรือสำเนาแฟ้ม
จานบันทึกข้อมูล ตัวจานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง (Hard Disk) ประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กตั้งแต่
หนึ่งแผ่นจนถึงหลายแผ่น และเครื่องขับจาน (Hard Disk Disk)เป็นส่วนประกอบของฮาร์ดแวร์ การ
บันทึกข้อมูลได้จำนวนมากเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับเครื่องและรุ่นที่ใช้ปัจจุบันสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่
ขนาน 500 เมกะไบต์ จนถึง80 กิกะไบต์ หรือมากกว่านี้
แผ่นซีดีรอม (CDROM) หรือ แผ่นซีดี ซีดี ย่อมาจากคอมแพคดิสก์ มีลักษณะคล้ายแผ่นซีดี
เพลงใช้ระบบเสียงเลเซอร์ในการอ่านข้อมูลที่เก็บเป็นได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เสียง และภาพได้ มีความจุ
ประมาณ 650 เมกะไบต์
เพลงใช้ระบบเสียงเลเซอร์ในการอ่านข้อมูลที่เก็บเป็นได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เสียง และภาพได้ มีความจุ
ประมาณ 650 เมกะไบต์
ดีวีดี ดีวีดี ( DVD หรือ Digitle Versatile Disk ) เป็นแผ่นที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โดยแผ่นดีวีดีสามารถเก็บข้อมูลได้ไม่ต่ำกว่า 4.7 จิกะไบต์ คาดหมายว่าแผ่นดีวีดีจะถูกนำมาใช้แทนซีดีรอม เลเซอร์ดิสก์หรือแม้แต่วิดีโอเทป
4 . หน่วยแสดงผล (Output Unit) เป็นอุปกรณ์ส่งออก ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์เมื่อซีพียูทำการประมวลผล
6.ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
1. มีความเร็วในการทำงานสูง เช่น การฝากถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม
2. มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
3. มีความถูกต้องแม่นยำตามโปรแกรมที่สั่งงานและข้อมูลที่ใช้
4. เก็บข้อมูลได้มาก ไม่ต้องใช้เอกสารและตู้เก็บ
5. สามารถโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งโดยผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว
2. มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง
3. มีความถูกต้องแม่นยำตามโปรแกรมที่สั่งงานและข้อมูลที่ใช้
4. เก็บข้อมูลได้มาก ไม่ต้องใช้เอกสารและตู้เก็บ
5. สามารถโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งโดยผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว
7.บุคลากร (Peopleware)
บุคลากรคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ ได้แก่
1.ผู้ดูแลระบบ คือ บุคคลที่ถูกจ้างเพื่อจะดูแลและจัดการระบบ
2.นักวิเคราะห์ระบบ คือ วิเคราะห์และออกแบบระบบงาน
3.นักเขียนโปรแกรม คือ นักวิเคราะห์ระบบทำการวิเคราะห์ระบบงานเสร็จสิ้น เพื่อสร้างระบบงานให้
ออกมาใช้งานได้จริงๆ
ออกมาใช้งานได้จริงๆ
4.วิศวกรระบบ คือ ทำหน้าที่ออกแบบ สร้าง ซ่อมบำรุงและดูแลรักษาฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ให้
สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ
สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ
5.วิศวกรเครือข่าย คือ ผู้ดูแลออกแบบและดูแลระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
6.ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับสูง คือ ผู้ใช้สามารถประยุกต์โปรแกรมเพื่อสร้างผลงานต่างๆตามต้องการ
7.ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป คือ สามารถทำงานตามหน้าที่ในหน่วยงานนั้นๆเช่น การพิมพ์งาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น